ในปัจจุบันโรคหลอดเลือดสมองนับว่าเป็นโรคอันดับต้นๆที่ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิต และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งเป็นอาการสำคัญที่หลงเหลือหลังจากเป็นโรคหลอดเลือดสมอง อาการเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและคนรอบข้างเป็นอย่างมาก
โรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะที่เซลล์สมองถูกทำลาย อันเนื่องมาจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือแตก ทำให้ขัดขวางการลำเลียงเลือด ออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์สมอง ส่งผลให้เซลล์สมองตาย และสมองสูญเสียการทำงานจนเกิดอาการของอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการเตือนสำคัญที่เราสังเกตได้ คือ “หน้าเบี้ยว แขนขาไม่มีแรงครึ่งซีก เดินเซ พูดไม่ชัด ปวดศีรษะรุนแรง” ซึ่งอาจเกิดเพียงอาการเดียว หรือหลายอาการร่วมกันก็ได้ ซึ่งหากพบว่ามีอาการผิดปกติดังกล่าวควรรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน หากถึงเร็ว รักษาได้ทัน ก็จะลดความเสี่ยงต่อความพิการและเสียชีวิตได้
!! “เวลาสำคัญมากสำหรับโรคนี้” !!
ซึ่งหากผู้ป่วยได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที ส่งผลให้มีอาการหลงเหลือหลังจากโรคหลอดเลือดสมอง (Post-stroke) คือ ร่างกายอ่อนแรงครึ่งซีก กล้ามเนื้อชักเกร็ง กลืนลำบาก หรือพูดไม่ชัด เป็นต้น ซึ่งอาการหลงเหลือเหล่านี้จะรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ดั่งเดิม และอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจตามมาได้
การฟื้นฟูอาการหลงเหลือโดยแพทย์แผนจีน
ในระยะแรกหลังจากผู้ป่วยมีสัญญาณชีพคงที่ ไม่มีข้อห้ามในการฝังเข็ม รวมถึงไม่มีภาวะเลือดออกในสมองแล้ว ภายในระยะเวลา 72ชั่วโมง – 30วันแรก หลังจากเกิดโรค จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่สามารถฟื้นฟูเนื้อสมองที่ขาดเลือด แต่เซลล์สมองยังไม่ตาย (penumbra) และอาจสามารถฟื้นฟูได้จนถึง 6เดือนหลังจากเกิดโรค ซึ่งวิธีการฟื้นฟูโดยหลักทางแพทย์แผนจีน คือ
- การฝังเข็มและกระตุ้นไฟฟ้าบริเวณโดยรอบศีรษะ จะเป็นการกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติในร่างกาย เกิดการหลั่งสารสื่อประสาท ทำให้เกิดการขยายของหลอดเลือดทั่วศีรษะและสมอง (Increased Collateral circulation and Microcirculation) ส่งผลให้มีเลือดไปเลี้ยงเนื้อสมองที่ขาดเลือด จนกระทั่งยับยั้งไม่ให้เกิดการตายของเซลล์สมองตามมา จึงทำให้อาการที่หลงเหลือจากโรคหลอดเลือดสมองได้รับการฟื้นฟู
- การฝังเข็มและกระตุ้นไฟฟ้าบริเวณแขนและขาซีกที่อ่อนแรง จะทำให้กล้ามเนื้อได้รับการกระตุ้นให้หดเกร็งและคลายตัวเป็นจังหวะ เพื่อป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อลีบฝ่อ (Muscle wasting)
- ยาจีน ในกรณีผู้ป่วยบางราย อาจมีการจ่ายยาสมุนไพรจีนร่วมด้วย ในรูปแบบยาทาน เพื่อช่วยเพิ่มลมปราณ เพิ่มการหมุนเวียนเลือด และสลายเลือดคั่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับการประเมินและวินิจฉัยโดยแพทย์อีกครั้ง
โดยแพทย์จะประเมินอาการและเลือกวิธีการรักษาฟื้นฟูที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งส่วนมากจะนัดผู้ป่วยเพื่อรักษาและติดตามอาการ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 6เดือนหลังจากเกิดโรค โดยผู้ป่วยสามารถทำควบคู่กับการทำกายภาพได้
วิธีป้องกัน
- ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณโซเดียมและไขมันอิ่มตัวสูง ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด
- ควรตรวจสุขภาพประจำปีเมื่ออายุมากขึ้น เพื่อคัดกรองกลุ่มโรคเสี่ยงที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง อ้วน หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น
- ควรรู้จักป้องกันการเป็นซ้ำ (2nd stroke) ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งรับประทานยาตามที่แพทย์กำหนดอย่างสม่ำเสมอไม่ปรับยาและหยุดยาเอง รวมถึงการฝังเข็มต่อเนื่องหลังจากพ้นระยะ 6เดือน ด้วยความถี่ประมาณ 2ครั้งต่อเดือน เพื่อป้องกันการเป็นซ้ำ
ดังนั้นหากท่านใดพบว่าเสี่ยง ควรหมั่นตรวจเช็คร่างกาย หากพบสัญญาณเตือนของโรค ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อลดความเสี่ยงต่อความพิการและเสียชีวิต รวมทั้งการรักษาฟื้นฟูและป้องกันที่ถูกวิธี จะทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น รวมถึงลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำครับ
ยินดีให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูอาการหลงเหลือจากโรคหลอดเลือดสมองด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีนควบคู่ ที่ปิยชาติคลินิก ทั้ง 3 สาขา ใกล้บ้านท่าน ไม่ควรปล่อยไว้จนเป็นเรื้อรัง รบกวนการใช้ชีวิตนะครับ
Add Line : https://line.me/R/ti/p/%40piyachartclinic
#stroke #โรคหลอดเลือดสมอง #ภาวะสมองขาดเลือด #หน้าเบี้ยว #แขนหมดแรง #FAST #acupuncture #ปิยชาติคลินิก #รัตนาธิเบศร์ #บางบัวทอง #นนทบุรี